เมื่อเห็นชื่อนี้ไม่ต้องกังวลเพราะเรายังอยู่ในช่วงตลาดกระทิงและตลาดหมีอยู่ห่างออกไปพอสมควร แต่เหตุใดเราจึงกล่าวเช่นนี้? มันเป็นนิสัยส่วนตัวหรือวิธีคิดมากกว่า ตัวอย่างเช่นในช่วงตลาดหมีฉันมักจะเตรียมพร้อมสําหรับตลาดกระทิงครั้งต่อไป (เช่นการลงทุนใน Bitcoin อย่างสม่ําเสมอทุกเดือน) ในขณะที่อยู่ในตลาดกระทิงโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงกลางถึงปลายฉันเริ่มเตรียมตัวสําหรับตลาดหมี

ตลาดทั้งหมดเป็นวัฏจักร ในฐานะบุคคลธรรมดาที่ไม่มีภูมิหลังที่สําคัญและมีทรัพยากรจํากัด เราควรพยายามเข้าใจและใช้แนวโน้มวัฏจักรเหล่านี้ให้ดีที่สุดเท่าที่จะทําได้ อย่างไรก็ตามความจริงก็คือคนส่วนใหญ่ไม่ได้เตรียมพร้อมสําหรับวัฏจักรเหล่านี้ แม้แต่ผู้ที่จัดการเพื่อรับโทเค็นราคาต่ําในช่วงตลาดหมีหรือทํากําไรในช่วงตลาดกระทิงก็อาจพลาดโอกาสหรือขาดทุนเนื่องจากขาดการเตรียมจิตใจ

ในบทความจากปีที่แล้ว (2023) เราได้กล่าวว่าตลาดกระทิงครั้งต่อไป (ตลาดกระทิงในปัจจุบันนี้) อาจเป็นโอกาสสุดท้ายสําหรับการเติบโตอย่างมากในตลาดคริปโต วันนี้ผมขอเสริมว่าเมื่อเทียบกับตลาดหมีในอดีตตลาดหมีครั้งต่อไปอาจโหดร้ายมาก

แน่นอนว่าโอกาสในการเติบโตอย่างมากหมายความว่าในตลาดกระทิงครั้งต่อไปเราไม่น่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่งหลายสิบหรือหลายร้อยครั้งในวันเดียว และตลาดหมีที่รุนแรงไม่ได้หมายความว่าตลาดนี้ "ตาย" หมายความว่าในช่วงตลาดหมีครั้งต่อไปหลายโครงการอาจถูกละเลยมากขึ้น แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่มีโอกาสเลย ตลาดหมีเป็นเพียงการรีเซ็ตตลาด มันไม่ได้ฆ่ามัน

สาเหตุหลักประการหนึ่งคือปัญหาด้านกฎระเบียบที่เรากล่าวถึงในบทความก่อนหน้านี้ ในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เรารู้สึกถึงมาตรการกํากับดูแลที่เพิ่มขึ้นซึ่งกําหนดเป้าหมายไปที่ตลาด crypto โดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมาย crypto ต่างๆ ที่ประกาศใช้หรือจัดทําขึ้นในสหรัฐอเมริกา การแลกเปลี่ยนบางแห่งยังแสวงหาการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่องและพยายามปฏิบัติตามข้อกําหนดด้านกฎระเบียบ ตัวอย่างเช่น พวกเขาได้เพิกถอนเหรียญความเป็นส่วนตัวโดยสมัครใจ เช่น XMR และแม้แต่ CZ ของ Binance ก็ต้องเผชิญกับสหรัฐอเมริกาเป็นการส่วนตัว จากสัญญาณปัจจุบันกฎระเบียบในอนาคตที่กําหนดเป้าหมายไปที่ฟิลด์ crypto เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ดังนั้นเราต้องเริ่มคิดถึงตลาดหมีตั้งแต่ตอนนี้

1. การเตรียมพร้อมสําหรับตลาดหมี

ก่อนอื่นการจัดการตําแหน่งเป็นสิ่งสําคัญ

ฉันเข้าใจว่าปัจจุบันหลายคนมีการลงทุนที่สําคัญในพื้นที่ crypto บางคนถึงกับจัดสรรเงินทุนในโลกแห่งความเป็นจริงส่วนใหญ่ให้กับ cryptocurrencies สิ่งนี้จําเป็นต้องพิจารณาคําถามหลายข้อ:

ผลตอบแทนของการถือครองปัจจุบันของคุณเป็นอย่างไร? เป้าหมายในการขายของคุณคืออะไร? ทําไมคุณถึงเชื่อว่าเป้าหมายนี้สามารถทําได้?

หากคุณไม่บรรลุเป้าหมายในช่วงตลาดกระทิงนี้ หรือแม้แต่ขาดทุน คุณจะทําอย่างไรในช่วงตลาดหมี?

คุณจะทําอย่างไรถ้าคุณพบปัญหาบางอย่างในชีวิตจริงของคุณ?

อุดมคติมักจะสวยงาม แต่ความเป็นจริงอาจรุนแรง หลายคนเข้าสู่สาขานี้ด้วยความฝันที่จะบรรลุการยกระดับทางการเงินอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม หากไม่พิจารณาหรือวางแผนสําหรับคําถามข้างต้น คุณอาจประสบกับความสูญเสียครั้งใหญ่ ในตลาดการค้าอย่างน้อย 80% ของผู้คนจบลงด้วยการสูญเสียเงินดังนั้นคุณต้องเลือกอย่างระมัดระวังยิ่งขึ้น

เนื่องจากมันยากที่จะพูดแทนคนอื่นฉันจะใช้ตัวเองเป็นตัวอย่างต่อไป ปัจจุบัน เงินที่ฉันลงทุนในพื้นที่ crypto มีสัดส่วนน้อยกว่า 10% ของสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงของฉัน เนื่องจากฉันเป็นผู้สนับสนุน Bitcoin อย่างแน่วแน่ อย่างน้อย 80% ของการถือครองของฉันอยู่ใน Bitcoin ดังนั้น แม้จะเป็นผู้ที่ชื่นชอบ Bitcoin มาก ฉันก็เตรียมแผนสองแผนสําหรับตลาดหมี ซึ่งฉันจะแบ่งปันในภายหลัง

จากนั้นให้พิจารณาสิ่งที่ต้องเตรียมตัวสําหรับตลาดหมี

จากประสบการณ์ที่ผ่านมาตลาดหมีมักจะเกิดขึ้นพร้อมกับการหลอกลวงต่างๆการโจมตีของแฮ็กเกอร์และเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดที่เพิ่มขึ้น

เกี่ยวกับการหลอกลวงและการโจมตีของแฮ็กเกอร์เราได้กล่าวถึงมาตรการความปลอดภัยและข้อควรระวังสําหรับพื้นที่ crypto ในบทความก่อนหน้านี้แล้ว ตราบใดที่ทุกคนให้ความสนใจกับประเด็นเหล่านี้ก็ไม่น่าจะมีปัญหาสําคัญ

สําหรับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด หลายคนน่าจะยังจําการล่มสลายของ FTX ได้ จากสถานการณ์ปัจจุบัน เราเชื่อว่าในตลาดหมีครั้งต่อไปประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin อาจต้องให้ความสนใจอย่างใกล้ชิด รวมถึงความคืบหน้าของ "Stablecoin Act" ของสหรัฐอเมริกา เราได้พูดถึงความคิดบางอย่างเกี่ยวกับ Stablecoin ในบทความของเราตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ดังนั้นฉันจะไม่อธิบายเพิ่มเติมที่นี่

มาเสนอสถานการณ์สมมุติ: หาก Stablecoin ที่คุณถืออยู่สูญเสียการตรึงในช่วงตลาดหมี คุณจะทําอย่างไร? คุณจะตื่นตระหนกขายหรือซื้อต่อหรือไม่? หากคุณยังไม่เคยประสบกับเหตุการณ์ดังกล่าว Google อาจช่วยล่มสลายของ UST สําหรับพื้นหลังบางส่วน

ดังนั้นหากคุณสามารถรับรู้ผลกําไรในช่วงตลาดกระทิงนี้และหากสินทรัพย์ที่คุณลงทุนในตลาด crypto เป็นส่วนสําคัญของสินทรัพย์ในโลกแห่งความเป็นจริงของคุณการถอนส่วนหนึ่งในบางขั้นตอนเป็นหนึ่งในตัวเลือกที่ปลอดภัยกว่า สําหรับประเด็นเรื่องการถอนเงินหัวข้อนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อนดังนั้นเราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้ที่นี่

หากคุณไม่ต้องการถอนเงิน คุณมีสองทางเลือก:

กระจาย Stablecoin ของคุณ: ถือ USDC, USDT และ DAI ผสมกันตามสัดส่วนแทนที่จะถือ USDT เท่านั้น การกระจายความเสี่ยงนี้สามารถช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับ Stablecoin เดียว

แปลงเป็น Cryptos ที่มีเสถียรภาพมากขึ้น: หากคุณรู้สึกถึงสภาวะตลาดที่ไม่เอื้ออํานวยคุณสามารถแปลง Stablecoins ของคุณเป็น Bitcoin และ Ethereum ได้โดยตรง ปัจจุบันสินทรัพย์ทั้งสองนี้ถือว่าปลอดภัยที่สุด (แม้จะมีความผันผวน แต่ก็มีความน่าเชื่อถือในระยะยาว)

หากคุณมีเวลาและพลังงานมากขึ้นในช่วงตลาดหมีนอกเหนือจากการเข้าร่วมในตลาด crypto ต่อไปคุณยังสามารถใช้เวลาในการเรียนรู้และมีส่วนร่วมในตลาดการเงินอื่น ๆ เช่นหุ้น หรือหากคุณชอบเขียน คุณอาจพิจารณาเป็นผู้สร้างเนื้อหาอย่างฉัน เนื่องจากการผลิตเนื้อหาเป็นวิธีที่ดีที่สุดวิธีหนึ่งในการเรียนรู้

2. อนาคตสดใส อดทน

เมื่อพูดถึงตลาดหมีแล้ว ให้กลับมาที่ตลาดปัจจุบันและให้กําลังใจทุกคนบ้าง

เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันสังเกตเห็นว่าวิญญาณของหลายคนดูค่อนข้างต่ํา ความกระตือรือร้นที่มีอยู่เมื่อไม่นานมานี้ เช่น การวิ่งเข้าไปในเหรียญมีมและมีส่วนร่วมในการสร้างเหรียญได้ลดลง นอกจากนี้ หลายคนดูเหมือนจะขาดความมั่นใจในทิศทางของตลาด อย่างไรก็ตาม ในช่วงเวลาเช่นนี้คุณควรคว้าโอกาสในการค้นคว้าและวางกลยุทธ์

ในตลาดการเงินใด ๆ คนส่วนใหญ่เลือกที่จะออกหรือยอมแพ้ด้วยเหตุผลประมาณสามประการ:

การละทิ้งมิติเวลา: บุคคลเหล่านี้ขาดความอดทน เมื่อพวกเขาไม่เห็นการเติบโตของตลาดเป็นเวลานานพวกเขาจึงเลิกถือครองและออก

การละทิ้งมิติความคาดหวัง: ตัวอย่างเช่น บางคนอาจคาดว่า Bitcoin จะดีดตัวขึ้นเป็น $70,000 ภายในหนึ่งสัปดาห์ และเมื่อสิ่งนี้ไม่เกิดขึ้น

การปฏิเสธการละทิ้งมิติ: บุคคลเหล่านี้สามารถยอมรับการแกว่งตัวของตลาดเท่านั้นและไม่สามารถรับมือกับการชะลอตัวทางจิตวิทยาได้ เมื่อตลาดรวมหรือลดลง

ขณะนี้เราอยู่ในขั้นตอนที่เอนเอียงไปทางเหตุผลที่สามมากขึ้น หลายคนกลัวว่าตลาดอาจตกต่ํา พวกเขากังวลว่าหากพวกเขาซื้อเข้ามาตลาดจะลดลงดังนั้นพวกเขาจึงเลือกที่จะอยู่ข้างสนามหรือละทิ้งการถือครองที่มีอยู่โดยตรง

ทําไมหลายคนถึงมีความคิดแบบนี้?

ฉันคิดว่าเหตุผลหลักคือส่วนใหญ่ซื้อเข้ามาเนื่องจาก FOMO (กลัวพลาด) FOMO นี้ทําให้พวกเขาซื้อที่จุดที่ค่อนข้างสูงในระยะสั้นทําให้เกิดความกลัวและไม่สามารถถือได้เมื่อตลาดผันผวน นี่เป็นปรากฏการณ์ทางจิตวิทยาการซื้อขายทั่วไป อย่างไรก็ตาม หากคุณติดตามข้อมูลเชิงลึกของตลาดเป็นประจํา เช่น ที่แชร์โดย "Huali Huawai" (ชื่อสมมติเพื่อจุดประสงค์ในการอธิบาย) และเริ่มเฉลี่ยต้นทุนดอลลาร์เป็น Bitcoin ในช่วงครึ่งหลังของปี 2022 ต้นทุนเฉลี่ยของคุณสําหรับ Bitcoin ควรต่ํากว่า 30,000 ดอลลาร์ ทําให้ความผันผวนของตลาดในปัจจุบันเล็กน้อย

ในบทความก่อนหน้านี้ฉันมักจะพูดถึงตําแหน่งและแผนของตัวเอง ตัวอย่างเช่นฉันกล่าวว่าในช่วงวัฏจักรตลาดกระทิงนี้ฉันวางแผนที่จะขาย 30% ของการถือครอง Bitcoin ของฉันเมื่อถึง $ 100,000 - $ 120,000 ผู้อ่านบางคนส่งข้อความถึงฉันว่าพวกเขาวางแผนที่จะปฏิบัติตามกลยุทธ์นี้

แม้ว่าฉันคิดว่าแนวทางนี้ใช้ได้ดี แต่ฉันต้องย้ําคําพูดเก่าๆ ว่าแต่ละคนควรปรับแต่ง (ปรับให้เหมาะสมตามแผนของผู้อื่น) การจัดการตําแหน่งและกลยุทธ์การลงทุนตามสถานการณ์ของตนเอง ฉันกําหนดเป้าหมายข้างต้นตามการพิจารณาของฉันเอง ดังที่ฉันได้กล่าวไว้ในบทความก่อนหน้านี้ฉันทําแผนนี้ในปี 2022 โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ได้ผลตอบแทนโดยรวม 3-5 เท่าในรอบนี้ การเข้าถึง $100,000 สําหรับ Bitcoin ไม่ได้เป็นเพียงตําแหน่งเป้าหมายของฉันเท่านั้น (จุดที่จะเริ่มขายเป็นชุด) แต่โดยส่วนตัวแล้วฉันยังเชื่อว่า Bitcoin มีแนวโน้มที่จะถึงระดับนี้ในตลาดกระทิงนี้ (ตามที่ฉันวิเคราะห์ในบทความก่อนหน้านี้หลายบทความ)

นอกจากนี้ฉันมีแผน B หาก Bitcoin ไม่ถึง $100,000 ในรอบนี้ ฉันจะถือ Bitcoin ต่อไปและรอรอบถัดไป กระบวนการนี้จะไม่ส่งผลกระทบต่อแผนของฉันในการตั้งค่าการเฉลี่ยต้นทุนดอลลาร์รอบใหม่ในช่วงตลาดหมีครั้งต่อไปเพื่อสะสม Bitcoin ต่อไป

สรุป: ลงทุนอย่างชาญฉลาดและอดทน

การลงทุนเป็นความพยายามอย่างจริงจังที่ต้องใช้แผนการที่รอบคอบ หากคุณเป็นนักลงทุนระยะยาวและไม่จําเป็นต้องเลิกกิจการการถือครองของคุณคุณสามารถทําตามกลยุทธ์ที่คล้ายกับของฉัน มิฉะนั้นเมื่อตําแหน่งของคุณเป็นไปตามความคาดหวังคุณควรพิจารณาขายส่วนหนึ่งของการถือครองของคุณเพื่อล็อคผลกําไร อย่ารอให้ Bitcoin ถึง $100,000, $200,000 หรือ $1,000,000 เพราะคนอื่นบอกว่าจะทํา

จําไว้ว่าคุณต้องบรรลุเป้าหมายตามแผนของคุณเองแทนที่จะรอให้การคาดการณ์ของผู้อื่นเป็นจริงหลังจากที่คุณลงทุนเงินแล้ว สิ่งนี้อาจนําไปสู่การสูญเสียที่ไม่สามารถควบคุมได้ ตลาดไม่สามารถคาดเดาได้โดยเนื้อแท้ ไม่มีใครรู้ค่าสูงสุดตลอดกาลที่แน่นอนสําหรับ Bitcoin ในรอบนี้หรือจะเกิดขึ้นเมื่อใด การคาดการณ์ในปัจจุบันเป็นเพียงการคาดเดาแม้ว่าจะมีข้อมูลที่ดีก็ตาม

หากคุณชอบ altcoins มากกว่า Bitcoin ความท้าทายอาจมากกว่า ตามที่กล่าวไว้ในบทความล่าสุดการเปลี่ยนแปลงของฤดูกาล altcoin ได้เปลี่ยนไป แม้ว่าเราจะยังคงคาดหวังคลื่นลูกใหม่ของการชุมนุมของ altcoin แต่ไม่ใช่ altcoins ทั้งหมดที่จะเห็นการเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสําคัญในตลาดกระทิงนี้ มุ่งเน้นไปที่โครงการที่มีการเล่าเรื่องที่เป็นที่นิยมและเชื่อถือได้ และกําหนดการจัดการตําแหน่งและแผนการลงทุนของคุณอย่างพิถีพิถัน (เช่น การตั้งค่าระดับการหยุดการขาดทุนและการทํากําไร) หมดยุคของการทําเงินอย่างง่ายดายด้วยการลงทุนใน altcoin แบบสุ่มสี่สุ่มห้าสิ้นสุดลงแล้ว

การเปลี่ยนจากตลาดที่ดุร้าย หลอกลวง และไร้การควบคุมไปสู่ตลาดที่มีระเบียบและมีการควบคุมมากขึ้นเป็นสัญญาณของการเติบโตของตลาด สําหรับนักลงทุนทั่วไปเมื่อตลาดเติบโตเต็มที่วันที่เห็นการลงทุนคูณด้วยหลายพันหรือหลายร้อยจะกลายเป็นความทรงจํา อย่างไรก็ตาม ตลาด crypto ยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการพัฒนา

มูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลกทะลุ 100 ล้านล้านดอลลาร์ในปีที่แล้ว (2023) ปัจจุบัน มูลค่าตลาดคริปโตอยู่ที่ 2.32 ล้านล้านดอลลาร์เท่านั้น เมื่อตลาด crypto มีการปฏิบัติตามข้อกําหนดมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการควบคุม stablecoins เราสามารถคาดการณ์ได้ว่าประเทศและกองทุนสถาบันจะเข้าสู่พื้นที่นี้มากขึ้น ตัวอย่างเช่น หาก 5% ของมูลค่าตลาดหุ้นทั่วโลกย้ายเข้าสู่ตลาด crypto ก็อาจทําให้มูลค่าตลาดของ crypto ในปัจจุบันเพิ่มขึ้นสามเท่า

ทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลา กล่าวอีกนัยหนึ่ง: ความอดทน

3. กลยุทธ์หลักในการรับผลกําไรในตลาด crypto

ในช่วงครึ่งหลังของบทความนี้ เราจะสรุปกลยุทธ์ต่างๆ ในการทํากําไรในตลาดคริปโต

หลายสิ่งหลายอย่างเป็นไปตามหลักการพื้นฐาน ตัวอย่างเช่น การเรียนรู้เป็นกระบวนการเปลี่ยนจากความซับซ้อนไปสู่ความเรียบง่าย: "ก่อนอื่นให้หนังสือหนา แล้วทําให้บาง" การลงทุนเป็นไปตามเส้นทางที่คล้ายกัน ผู้มาใหม่มักจะซื้อ cryptocurrencies ที่แตกต่างกันหลายสิบรายการในขณะที่นักลงทุนที่ช่ําชองซึ่งผ่านวัฏจักรของตลาดมักจะถือเพียงไม่กี่ตัวรวมถึง BTC และ ETH

การวิจัยและการทําให้เข้าใจง่าย

ยกตัวอย่างการวิจัยโครงการ ก่อนหน้านี้เราได้จัดเตรียม "เทมเพลตการวิจัยโครงการ" ในตําแหน่งที่โดดเด่นที่สุดบนเทมเพลตฉันได้เพิ่มคําแนะนําที่สําคัญ: "ค่อยๆเพิ่มประสิทธิภาพเทมเพลตนี้ให้เหมาะกับความต้องการของคุณ" นี่คือลักษณะที่ปรากฏ:

เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพคุณสามารถใช้เครื่องมือเช่น "เทมเพลตการวิจัยโครงการ" ซึ่งสามารถลดเวลาที่ต้องใช้ในการทําความเข้าใจโครงการจากวันเหลือเพียงไม่กี่ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม หากคุณมีโครงการมากมายให้ค้นคว้า ก็ยังคงเป็นภาระงานจํานวนมาก ดังนั้นในขณะที่คุณเรียนรู้และค้นคว้าต่อไปคุณสามารถลดความซับซ้อนของกลยุทธ์ที่ซับซ้อนได้ สิ่งนี้คล้ายกับวิธีที่ผู้เชี่ยวชาญสามารถวัดลักษณะของบุคคลได้อย่างรวดเร็วโดยการถามคําถามสองสามข้อด้วยประสบการณ์ที่กว้างขวางและวิธีการที่ไม่เหมือนใคร

คุณจะบรรลุเป้าหมายนี้ได้อย่างไร? คุณจะได้รับโอกาสในการทํากําไรอย่างรวดเร็วในด้าน crypto ผ่านการวิจัยได้อย่างไร? นี่คือขั้นตอนบางส่วน:

ประการแรกการทําความเข้าใจวัฏจักรของตลาด

การทําความเข้าใจวัฏจักรของตลาดเป็นสิ่งสําคัญเมื่อเข้าสู่ตลาด นี่คือเหตุผลที่ผู้ที่ทําเงินในสาขานี้ในที่สุดมักเป็นผู้ที่มีประสบการณ์อย่างน้อยหนึ่งหรือสองรอบตลาดในขณะที่ผู้มาใหม่ที่เข้าสู่ตลาดกระทิงมักจะจบลงด้วยการสูญเสียเงิน

ตรรกะพื้นฐานของตลาดคือการไหลของเงินทุน ซึ่งมักได้รับแรงหนุนจากการตัดสินใจทางอารมณ์ของผู้คน การเปลี่ยนแปลงราคาตลาดส่วนใหญ่ถูกกําหนดโดยอารมณ์ เช่น ความกลัวและความโลภ (สิ่งสําคัญคือต้องจําไว้ว่าสถาบันดําเนินการโดยผู้คนในท้ายที่สุด) ตลาดจึงมักจะทําตามรูปแบบหรือวัฏจักรซ้ําๆ ดังนั้นคําพูดที่ว่า: "ประวัติศาสตร์ไม่ได้ซ้ํารอย แต่มักจะคล้องจองกัน"

ทุกคนคงเคยได้ยินคําพูดที่มีชื่อเสียงของ Warren Buffett: "จงกลัวเมื่อคนอื่นโลภ และโลภเมื่อคนอื่นกลัว" อย่างไรก็ตาม มีเพียงไม่กี่คนที่สามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้อย่างถูกต้อง ในทํานองเดียวกัน หลายคนรู้ว่าการลงทุนใน Bitcoin อย่างต่อเนื่องในช่วงตลาดหมีและการขายเป็นชุดในช่วงตลาดกระทิงสามารถให้ผลตอบแทนที่สําคัญได้ มีกี่คนที่สามารถถือครอง Bitcoin ของพวกเขาได้อย่างแท้จริงผ่านกลยุทธ์ดังกล่าวในรอบนี้?

ในทุกวัฏจักรของตลาดมีกลยุทธ์มากมายที่สามารถใช้ได้ ตัวอย่างเช่น บางคนตั้งเป้าที่จะได้รับผลกําไรที่อาจเกิดขึ้นผ่าน airdrops บางคนแสวงหา APY สูงผ่านการเงิน crypto (ซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงกว่ามากเมื่อเทียบกับภาคการเงินอื่น ๆ ) บางจุดซื้อขายเพื่อรับผลกําไรที่อาจเกิดขึ้น และบางคนถึงกับหวังว่าจะได้รับความมั่งคั่งในชั่วข้ามคืนผ่านสัญญาที่มีเลเวอเรจ

เนื่องจากกลยุทธ์ส่วนตัวของฉันเกี่ยวข้องกับการถือครองสปอตเป็นหลักดังนั้นที่นี่เราจะใช้ธุรกรรมสปอตเป็นตัวอย่างและพูดคุยต่อไป

การติดตามและตรวจสอบเงินอัจฉริยะ

การติดตามและตรวจสอบเงินอัจฉริยะ

การติดตามกระเป๋าเงินวาฬครั้งหนึ่งเคยเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพ แต่เมื่อวิธีนี้ได้รับความนิยมมากขึ้น ประสิทธิภาพก็ลดลง วาฬจํานวนมากทราบดีว่ากระเป๋าเงินของพวกเขากําลังถูกตรวจสอบและมักจะกระจายทรัพย์สินไปยังกระเป๋าเงินหลายใบเพื่อหลีกเลี่ยงการตรวจจับ พวกเขาอาจเปิดเผยธุรกรรมอย่างเปิดเผยเฉพาะเมื่อพวกเขาต้องการส่งสัญญาณเฉพาะไปยังตลาด

มีเครื่องมือใหม่หลายอย่างเกิดขึ้นในช่วงสองสามปีที่ผ่านมาเพื่อช่วยในการติดตามและตรวจสอบกระเป๋าเงิน เช่น Arkham, Zerion, Mest, Alphatrace และ Apelike เมื่อเทียบกับการตรวจสอบกระเป๋าเงินวาฬที่รู้จักกันดีแนวทางที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นอาจมุ่งเน้นไปที่ "เงินอัจฉริยะ" ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินแรกที่ซื้อและทํากําไรจากการลงทุน เมื่อตรวจสอบกระเป๋าเงินเหล่านี้ คุณจะเห็นว่าพวกเขากําลังลงทุนในสินทรัพย์อื่นใด แม้ว่าการกรองกระเป๋าเงินภายในที่อาจเกิดขึ้นเป็นสิ่งสําคัญ

นี่คือเวอร์ชันสรุปของขั้นตอนที่มีรายละเอียดก่อนหน้านี้ในบทความ "Huali Huawai":

ขั้นแรก ให้ใช้ตัวรวบรวม DEX เพื่อค้นหาโทเค็นเป้าหมายที่คุณต้องการวิเคราะห์ ตัวอย่างเช่น ใช้เครื่องมือเช่น dexscreener เพื่อกรองโทเค็นใหม่ที่ร้อนแรงที่สุดจาก 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา จากนั้นดูหมวดหมู่ผู้ค้าหรือผู้ถืออันดับต้น ๆ ภายในโทเค็นเหล่านี้เพื่อค้นหาที่อยู่กระเป๋าเงินของผู้ที่ทํากําไรได้มากที่สุดและซื้อขายก่อน ดังแสดงในรูปด้านล่าง

คัดลอกที่อยู่กระเป๋าเงินที่เกี่ยวข้องและใช้เครื่องมือ alphatrace เพื่อตรวจสอบอัตราความสําเร็จในการซื้อขายของกระเป๋าเงินกําไรและขาดทุนในอดีตและโทเค็นอื่น ๆ ที่ถืออยู่ หากคุณพบว่าอัตราความสําเร็จในอดีตของกระเป๋าเงินเกิน 60% และ Realized PnL มากกว่า $300,000 คุณสามารถเพิ่มกระเป๋าเงินนี้ลงในรายการเฝ้าดูของคุณได้ ดังแสดงในรูปด้านล่าง

สิ่งที่คุณต้องทําคือตรวจสอบกิจกรรมการซื้อขายล่าสุดของกระเป๋าเงินในรายการเฝ้าดูของคุณอย่างต่อเนื่อง และระบุโอกาสในการซื้อขายสําหรับโครงการที่มีศักยภาพจากกิจกรรมเหล่านี้

ประการที่สามระบุและค้นพบโครงการที่มีศักยภาพ

เมื่อทําตามขั้นตอนก่อนหน้านี้คุณควรมีรายการโครงการที่จะวิจัย ไม่ว่าโครงการเหล่านี้จะเป็น altcoins ที่มีมูลค่าตลาดต่ําหรือเหรียญมีมความจริงที่ว่าเงินอัจฉริยะซื้อขายพวกเขาตั้งแต่เนิ่นๆบ่งชี้ว่าพวกเขามีศักยภาพที่สูงขึ้นสําหรับการเติบโตอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตาม การลงทุนในทุกโครงการไม่สามารถทําได้ และไม่ใช่ทุกโครงการที่จะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคุณต้องทําการวิจัยที่จําเป็นเกี่ยวกับโครงการที่มีอยู่ในรายการของคุณเพื่อระบุและค้นพบโครงการที่มีแนวโน้มมากที่สุดสําหรับการซื้อขาย ณ จุดนี้ คุณจะต้องใช้ "เทมเพลตการวิจัยโครงการ" ที่ปรับให้เหมาะสมซึ่งกล่าวถึงก่อนหน้านี้

สําหรับขั้นตอนเฉพาะในการระบุและค้นพบโครงการที่มีศักยภาพเราได้ให้รายละเอียดกระบวนการนี้ในบทความของเราเมื่อไม่กี่วันก่อน (6 พฤษภาคม) เราจะไม่ทําซ้ําที่นี่ ดังแสดงในรูปด้านล่าง

ถ้อยแถลง:

1. บทความนี้ทําซ้ําจาก [话李话外] ลิขสิทธิ์เป็นของผู้แต่งต้นฉบับ [话李话外] หากคุณมีข้อโต้แย้งใด ๆ ต่อการพิมพ์ซ้ํา โปรดติดต่อทีม Gate Learn และทีมงานจะจัดการโดยเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. ข้อจํากัดความรับผิดชอบ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคําแนะนําในการลงทุนใดๆ

3. บทความเวอร์ชันภาษาอื่นได้รับการแปลโดยทีม Gate Learn และไม่ได้กล่าวถึงใน Gate.io บทความที่แปลแล้วไม่สามารถทําซ้ําแจกจ่ายหรือลอกเลียนแบบได้