โครงสร้างพื้นฐานไม่เคยหลับ มีโซนมากกว่าแอปพลิเคชัน

ในขณะที่ตลาดต้องเผชิญกับการกระจายลมจากโครงการ "ราชา" ต่าง ๆ ตลาดหลักยังคงแข่งขันเพื่อสร้าง "ราชา" ต่อไป

เมื่อคืนวาน โครงการ Layer 2 ชื่อเสียงอีกตัวได้ปรากฏขึ้น - MegaETH ได้รับเงินทุนเริ่มต้นมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ โดยมี Dragonfly เป็นผู้นำและมีการเข้าร่วมของ Figment Capital, Robot Ventures, และ Big Brain Holdings นักลงทุนอาสาสมัครรวมถึง Vitalik, Cobie, Joseph Lubin, Sreeram Kannan, และ Kartik Talwar

ด้วย VCs ระดับยอดนักลงทุนนำรอบทุนและธุรกิจยักษ์ใหญ่เช่น Vitalik ในฐานะนักลงทุนที่เชื่อมั่น และชื่อโครงการที่รวมอยู่ในชื่อ “ETH” ทั้งหมดเหล่านี้เป้าหมายที่จะสร้าง “ความถูกต้อง” ในตลาดสกุลเงินดิจิตอลที่มีความสนใจจำกัด

ตามคำอธิบายโครงการอย่างเป็นทางการ MegaETH สามารถสรุปได้ด้วยคำที่คุ้นเคยได้แก่ - Fast.

เป็นบล็อกเชนแบบรีอลไทม์แรกที่มีความเร็วในการทำธุรกรรมอย่างรวดเร็วสูงสุด ความล่าช้าในลัตราวินาทีและมากกว่า 100,000 ครั้งต่อวินาที...

ในตลาดที่ผู้เข้าร่วมทุกคนเหนื่อยล้าจากเรื่องราวเกี่ยวกับผลงานบล็อกเชน เมกะอีเอทีเอชเด่นอย่างไร?

เราขุดอย่างลึกลงไปในเอกสารขาวของ MegaETH เพื่อหาคำตอบ

หลายๆ โซ่ แต่ไม่มีใครสามารถทำได้ "Real-Time"

นอกเหนือจากเรื่องราวและความตื่นเต้น เหตุผลที่ตลาดต้องการบล็อกเชนเช่น MegaETH คืออะไร

คำตอบของ MegaETH ก็คือการสร้างเครือข่ายมากขึ้นไม่ได้แก้ปัญหาการขยายของบล็อกเชน วิธีการ L1 และ L2 ปัจจุบันก็ยังเผชิญกับปัญหาที่เหมือนกัน:

• ทุกๆ EVM chains มีประสิทธิภาพการทำธุรกรรมที่ต่ำ;
• เนื่องจากทรัพยากรคำนวณจำกัด แอปพลิเคชันที่复杂ไม่สามารถนำไปใช้บนเชนได้;
• แอปพลิเคชันที่ต้องการอัปเดตอย่างรวดเร็วหรือการตอบกลับทันทีเป็นเรื่องที่ไม่เป็นไปตามความเป็นจริงด้วยเวลาบล็อกที่ยาว

กล่าวอีกนัยหนึ่ง บล็อกเชนปัจจุบันไม่สามารถทำได้:

• การตรวจสอบแบบเรียลไทม์: ธุรกรรมถูกประมวลผลทันทีเมื่อมาถึงบล็อกเชน และผลลัพธ์ถูกเผยแพร่เกือบทันที
• การประมวลผลแบบเรียลไทม์: ระบบบล็อกเชนสามารถประมวลผลและยืนยันจำนวนมากของธุรกรรมในเวลาอันสั้นเป็นอย่างมากได้

ความสามารถในการทำงานแบบเรียลไทม์นี้ดูเหมือนอย่างไรในการประยุกต์ใช้จริง?

ตัวอย่างเช่นการซื้อขายความถี่สูงต้องการความสามารถในการวางและยกเลิกคำสั่งในไมลิวินาที ในทำนองเดียวกัน เกมการต่อสู้แบบเรียลไทม์หรือการจำลองฟิสิกส์ต้องการบล็อกเชนที่สามารถอัปเดตสถานะในความถี่สูงมาก ๆ อย่างชัดเจนว่าบล็อกเชนปัจจุบันไม่สามารถทำได้

การพิเศษของโหนดและประสิทธิภาพแบบเรียลไทม์

ดังนั้น MegaETH บรรลุความสามารถในการทำงานเรียลไทม์ตามที่กล่าวได้อย่างไร? อย่างสั้น:

แยกงานที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินการทางธุรกรรมออกจากความรับผิดชอบของโหนดเต็ม แยกจะลดการใช้ทรัพยากรในการเชิงสร้างสรรค์

เพื่อให้มีความแน่นอนมากขึ้น MegaETH มีบทบาทหลัก 3 ประการ: ตัวต่อต่อ, ตัวประกัน, และโหนดเต็มรูปแบบ

ใน MegaETH เท่านั้นที่มีตัวควบคุมที่ใช้จริงเพียงอันเดียวในการดำเนินการธุรกรรมในเวลาใดก็ตาม โหนดอื่น ๆ จะได้รับความแตกต่างของสถานะผ่านเครือข่าย P2P และอัปเดตสถานะท้องถิ่นโดยไม่ต้องดำเนินการธุรกรรมใหม่

ตัวจัดเรียง (sequencer) รับผิดชอบในการเรียงลำดับและดำเนินการทรัพยากรของผู้ใช้ โดยอย่างไรก็ตาม ในเวลาใดก็ตาม MegaETH มีเพียงตัวจัดเรียงเดียวที่ใช้งาน ทำให้ไม่มีการซ้อนทับในระหว่างการดำเนินการปกติ

Provers useการตรวจสอบแบบไร้สถานะเพื่อยืนยันบล็อกอย่างไม่เชื่อมต่อกันและไม่เรียงลำดับ

กระบวนการทำงานที่ถูกต้องของ MegaETH คือดังนี้:

1. การประมวลผลและการจัดลำดับธุรกรรม: ผู้ใช้ส่งธุรกรรมไปยัง Sequencer ก่อนที่จะประมวลผลธุรกรรมเหล่านี้ตามลำดับ โดยสร้างบล็อกและข้อมูลพยานใหม่

2. การเผยแพร่ข้อมูล: ตัวเรียงลำดับจะเผยแพร่บล็อกที่สร้างขึ้น เนื้อหาพยายามและความแตกต่างของสถานะไปยัง EigenDA (ชั้นความพร้อมใช้ข้อมูล) เพื่อให้ข้อมูลเหล่านี้พร้อมใช้งานในทั่วเครือข่าย

3. การตรวจสอบบล็อก: เครือข่าย Prover ดึงบล็อกและข้อมูลพยานจากตัวจัดลำดับ ตรวจสอบด้วยฮาร์ดแวร์ที่เชี่ยวชาญ สร้างพิสูทธิและส่งกลับไปยังตัวจัดลำดับ

4. อัปเดตสถานะ: เครือข่าย Fullnode ได้รับการอัปเดตสถานะจาก Sequencer อัปเดตสถานะท้องถิ่น และสามารถยืนยันความถูกต้องของบล็อกผ่านเครือข่าย Prover ที่มีความสอดคล้องและปลอดภัย

วัดก่อน จึงดำเนินการ

จากเนื้อหาอื่น ๆ ในเอกสารสีขาว MegaETH เองก็เข้าใจว่า ถึงแม้ความคิดเห็นเกี่ยวกับ "การเชี่ยวชาญของโหนด" นั้นดี แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ามันสามารถทำได้อย่างง่าย

เมื่อเรื่องเกี่ยวกับการสร้างโซ่ MegaETH มีการดำเนินการที่น่าสนใจ: วัดก่อน จากนั้นดำเนินการ นั่นคือ ดำเนินการวัดประสิทธิภาพอย่างละเอียดเพื่อระบุปัญหาจริงของระบบบล็อกเชนที่มีอยู่ก่อนที่จะคิดวิธีในการประยุกต์วิธีการแตกต่างของโหนดเพื่อแก้ไขปัญหาเหล่านี้

ดังนั้นปัญหาที่ MegaETH ตรวจพบคืออะไร?

ส่วนต่อไปนี้อาจจะเป็นเนื้อหาทางเทคนิคมากเกินไปสำหรับผู้อ่านทั่ว ๆ ไป ดังนั้นไม่ต้องรู้สึกผิดหวังถ้าคุณต้องการข้ามไปยังส่วนถัดไป

• การดำเนินการธุรกรรม: การทดลองของพวกเขาแสดงให้เห็นว่า แม้จะมีเซิร์ฟเวอร์ที่ทรงพลังและมีหน่วยความจำ 512GB แต่ลูกค้าการดำเนิน Ethereum ที่มีอยู่ Reth สามารถทำได้เพียงประมาณ 1000 TPS (ธุรกรรมต่อวินาที) ในการตั้งค่าการซิงค์แบบเรียลไทม์เท่านั้น ซึ่งแสดงให้เห็นถึงปัญหาของประสิทธิภาพที่สำคัญในระบบปัจจุบันสำหรับการดำเนินการธุรกรรมและการอัปเดต
• การดำเนินการแบบขนาน: ถึงแม้ว่าแนวคิดร้อนๆของ parallel EVM จะมีปัญหาเรื่องประสิทธิภาพที่ยังไม่ได้แก้ไข การเร่งความเร็วของ parallel EVM ในการผลิตจริงถูก จำกัด โดยความขนานของหน้าที่งาน การวัดของ MegaETH แสดงให้เห็นว่าความขนานกลางของบล็อก Ethereum ล่าสุดน้อยกว่า 2 แม้ว่าจะรวมหลายบล็อกกันแล้ว ความขนานกลางเพิ่มขึ้นเท่าเพียง 2.75

(ความคล้ายคลึงกันน้อยกว่า 2 หมายความว่าในกรณีส่วนใหญ่มีธุรกรรมน้อยกว่าสองรายการต่อบล็อกที่สามารถดําเนินการพร้อมกันได้ สิ่งนี้บ่งชี้ว่าธุรกรรมส่วนใหญ่ในระบบบล็อกเชนปัจจุบันพึ่งพาซึ่งกันและกันและไม่สามารถประมวลผลแบบคู่ขนานในขนาดใหญ่ได้)

• ค่าเพิ่มของตัวแปล: แม้ว่าตัวแปล EVM ที่เร็วกว่า เช่น revm ก็ยังช้ากว่าการทำงานแบบเดิมได้ 1-2 ออเดอร์
• การซิงโครไนซ์สถานะ: การซิงโครไนซ์การโอนเงิน ERC-20 100,000 ครั้งต่อวินาทีต้องใช้แบนด์วิดท์ 152.6 Mbps และธุรกรรมที่ซับซ้อนมากขึ้นต้องใช้แบนด์วิดท์มากขึ้นอีก การอัพเดตรูทสถานะใน Reth ใช้ทรัพยากรคอมพิวเตอร์มากถึง 10 เท่าของการประมวลผลธุรกรรม กล่าวอีกนัยหนึ่งคือการใช้ทรัพยากรบล็อกเชนปัจจุบันสูงมาก

หลังจากการระบุปัญหาเหล่านี้ MegaETH เริ่มแก้ไขด้วยการให้คำแนะนำที่เหมาะสม ซึ่งสอดคล้องกับตรรกะการแก้ปัญหาที่กล่าวไว้ข้างต้น:

1. ตัวเรียงประสิทธิภาพสูง:

• การแบ่งส่วนโหนด: MegaETH ปรับปรุงประสิทธิภาพโดยการมอบหมายงานให้กับโหนดที่เชี่ยวชาญ โหนดตัดสินใจจัดการลำดับและดำเนินการธุรกรรม โหนดเต็มรูปแบบจัดการอัพเดทสถานะและการตรวจสอบ และโหนดพิสูจน์ยืนยันบล็อคโดยใช้อุปกรณ์พิเศษ
• ฮาร์ดแวร์ระดับสูง: ตัวจัดลำดับใช้เซิร์ฟเวอร์ที่มีประสิทธิภาพสูง (เช่น 100 คอร์, 1TB หน่วยความจำ, เครือข่าย 10Gbps) เพื่อจัดการปริมาณการทำธุรกรรมที่มากและสร้างบล็อกอย่างรวดเร็ว

1. การปรับปรุงการเข้าถึงสถานะ

• การเก็บข้อมูลในหน่วยความจำในขณะที่โหนด Sequencer จะมีหน่วยความจำมากมายที่สามารถเก็บรักษาสถานะบล็อกเชนทั้งหมดในหน่วยความจำ โดยไม่ต้องอ่านข้อมูลจาก SSD และสามารถเร่งความเร็วในการเข้าถึงสถานะได้
• การดำเนินการแบบพร้อมกัน: แม้ว่าประสิทธิภาพในการเร่งความเร็วของ Parallel EVM ในโหลดที่มีอยู่จะถูกจำกัดไว้ แต่ MegaETH จะเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือการดำเนินการแบบพร้อมกันและรองรับการจัดการลำดับการทำธุรกรรมเพื่อให้สามารถประมวลผลธุรกรรมที่สำคัญได้ทันเวลาในช่วงเวลาสูงสุด

1. การปรับปรุงการแปลงาน:

• AOT/JIT Compilation: MegaETH นำเสนอเทคนิคการคอมไพล์ Ahead-Of-Time (AOT) และ Just-In-Time (JIT) เพื่อเร่งความเร็วในการประมวลผลของสัญญาที่ต้องใช้คำนวณมาก แม้ว่าประสิทธิภาพในส่วนมากของสัญญาในสภาพแวดล้อมการใช้งานจริงจะถูก จำกัด แต่เทคนิคเหล่านี้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพได้อย่างมีนัยสำคัญในกรณีการคำนวณที่สูง

1. การปรับปรุงการซิงโครไนซ์สถานะ

• การส่งข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ: MegaETH ออกแบบวิธีการเข้ารหัสและส่งข้อมูลสถานะที่มีประสิทธิภาพ สามารถซิงโครไนสถานะอัพเดตขนาดใหญ่ด้วยแบนด์วิดท์ที่จำกัด
• เทคโนโลยีการบีบอัด: โดยการนำเทคโนโลยีการบีบอัดขั้นสูงมาใช้ MegaETH สามารถซิงโครไนส์การอัปเดตสถานะสำหรับธุรกรรมที่ซับซ้อน (เช่นการแลกเปลี่ยน Uniswap) ภายในข้อจำกัดแบนด์วิดท์ได้

1. การปรับปรุง State Root Update Optimization:

• การออกแบบ MPT ที่ปรับปรุง: MegaETH ใช้ Merkle Patricia Trie ที่ถูกปรับปรุง (เช่น NOMT) เพื่อลดการดำเนินการที่อ่าน/เขียนและปรับปรุงความมีประสิทธิภาพของรากสถานะ
• การประมวลผลเป็นชุด: โดยการประมวลผลสถานะอัปเดตแบบชุด MegaETH สามารถลดการดำเนินการ I/O ดิสก์แบบสุ่มและปรับปรุงประสิทธิภาพโดยรวมได้

เนื้อหาด้านบนเป็นเนื้อหาทางเทคนิคที่ค่อนข้างซับซ้อน แต่เหนือกว่ารายละเอียดทางเทคนิคเหล่านี้ คุณสามารถเห็นได้ว่า MegaETH มีความสามารถทางเทคนิคบางอย่างอย่างแท้จริง และหนึ่งในแรงบันดาลใจให้เลือกใช้คือ:

ด้วยการแบ่งปันข้อมูลทางเทคนิคโดยละเอียดและผลการทดสอบต่อสาธารณะ MegaETH มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มความโปร่งใสและความน่าเชื่อถือของโครงการช่วยให้ชุมชนด้านเทคนิคและผู้ใช้ที่มีศักยภาพได้รับความเข้าใจและความไว้วางใจในประสิทธิภาพของระบบอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้น

ทีมมีชื่อเสียง ถูกพิจารณาอย่างถี่ถ้วน

ในขณะที่วิเคราะห์ whitepaper จะเห็นได้ว่า ถึงแม้ชื่อ MegaETH จะดูมีสไตล์บาง แต่เอกสารและอธิบายบ่อยครั้งจะเปิดเผยถึงความละเอียดอ่อนและเทคนิคที่ละเอียดเกินไป

ข้อมูลสาธารณะระบุว่าทีมของ MegaETH ดูเหมือนจะมีภูมิหลังเป็นชาวจีน ซีอีโอ Li Yilong สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์จากสแตนฟอร์ด CTO, Yang Lei สําเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอกจาก MIT CBO (ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายธุรกิจ) Kong Shuyao สําเร็จการศึกษาระดับ MBA จาก Harvard Business School และมีประสบการณ์การทํางานในสถาบันอุตสาหกรรมหลายแห่ง (เช่น ConsenSys) หัวหน้าฝ่ายการเติบโตแบ่งปันอาชีพบางอย่างที่ทับซ้อนกับ CBO และจบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก

ทีมที่สี่สมาชิกมาจากมหา'ลัยชั้นนำในสหรัฐอเมริกา จะมีอิทธิพลที่สำคัญโดยธรรมชาติในเชิงของการเชื่อมโยงและทรัพยากร

ก่อนหน้านี้ ในบทความจบการศึกษาเป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร พันธมิตรนิวซ์ นำทีมในรอบที่มีค่าใช้จ่าย 25 ล้านดอลลาร์, เราได้แนะนำ CEO ของ Nexus ผู้เริ่มต้นใหม่ที่เป็นนิสิตจบใหม่จาก Stanford และดูเหมือนว่าเขามีพื้นฐานทางเทคนิคที่แข็งแกร่ง

ผู้ลงทุนระดับสูงในที่จริงมีความเห็นชอบในนักเทคโนโลยีระดับยอดจากโรงเรียนชั้นนำ โดยมี Vitalik ลงทุนด้วยและชื่อโครงการรวมถึง "ETH" การเล่าเรื่องทางเทคนิคและผลกระทบทางการตลาดจะมีโอกาสสูงที่จะถูกขยายออกไป

ในสถานการณ์ปัจจุบัน ที่โครงการเก่า 'พระราชา' กลายเป็น 'พระราชาที่ล่ม' และมีความเงียบเหงาในโครงการใหม่และกิจกรรมของตลาด MegaETH พร้อมที่จะเริ่มเกิดคลื่นใหม่ของ FOMO

เราจะดำเนินการติดตามและให้ข้อมูลอัปเดตเกี่ยวกับ testnet และปฏิสัมพันธ์ของโครงการต่อไป

คำใบ้:

1. บทความนี้ถูกเลียนแบบมาจาก [เทคโฟว] ชื่อเรื่องเดิมคือ “การแปลความหมายของกระดาษสีขาว MegaETH: โครงสร้างพื้นฐานไม่เคยหลับ เหตุใดถึงมีอะไรที่พิเศษกับการจัดการเงินขนาดใหญ่ L2 ที่วิทลิคเข้าร่วม?” ลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [เทคโนโลยี DeepTechFlow], หากคุณมีข้อความที่ไม่เห็นด้วยกับการพิมพ์ซ้ำ โปรดติดต่อทีม Gate Learnทีมจะดำเนินการโดยเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. คำปฏิเสธ: มุมมองและความคิดเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นเพียงผลมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้นและไม่เป็นที่ปรึกษาการลงทุนใด ๆ

3. เวอร์ชันภาษาอื่น ๆ ของบทความถูกแปลโดยทีม Gate Learn ที่ไม่ได้กล่าวถึงเกต์.ioบทความที่แปลอาจไม่นำมาทำสำเนา แจกจ่าย หรือลอกเลียน