2024 เป็นปีที่มีพลังงานระเบิดสำหรับ Bitcoin ในมุมมองแบบมาโครไม่เพียงเท่านั้นที่ ETF ของ BTC ได้รับการอนุมัติ แต่สำคัญยิ่งกว่า การ ระเบิด และพัฒนา L2 ทางด้านแอปพลิเคชั่นยังได้มอบคุณสมบัตินิวของ Bitcoin เอโคโลจิคอลใหม่

ผู้ถือ Bitcoin ไม่จำเป็นต้องจำกัดการถือครองอีกต่อไป แต่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมเช่นการเป็นเจ้าของสัญญาเงินฝากและกิจกรรม DeFi บนเครือข่ายได้แล้ว BTCFi ถือเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมากที่สุดและมีศักยภาพในการเติบโตในวงจรนี้ ดังนั้น วิธีการใช้โครงสร้างพื้นฐานในระบบนิเวศ Bitcoin เพื่อเปิดใช้งานสินทรัพย์ Bitcoin ที่มีมูลค่าเทริลลิองดอลลาร์ที่ไม่ได้ใช้งานในระบบ Bitcoin มากมายเป็นปัญหาหลักที่ BTCFi ต้องให้ความสำคัญ

ในบริบทนี้ การเกิดขึ้นของเน็ตเวิร์กเพลลเป็นเรื่องที่เป็นที่พึงประสงค์: เน็ตเวิร์กเพลลเป็นเครือข่ายรักษาความปลอดภัยที่ทั่วไปแรกที่สร้างขึ้นบนการเพิ่มความมั่นคงของบิตคอยน์ มีวัตถุประสงค์ในการช่วย AVS ทุกคนให้สามารถแบ่งปันพื้นฐานความปลอดภัยที่แข็งแรงของบิตคอยน์ จึงเป็นแรงผลักดันที่มีอิทธิพลอย่างมากสำหรับความเจริญรุ่งเรืองของ BTCFi

ตั้งแต่ประกาศเปิดตัวล่วงหน้า ประสิทธิภาพของ Pell Network ได้รับการยอมรับอย่างมหาศาล โดยมียอด TVL ที่เกิน 200 ล้านเหรียญในเวลาเพียง 3 สัปดาห์ และจำนวนที่อยู่ที่อิสระเพิ่มขึ้นไปถึง 410,000 ที่อยู่ รายงานว่าโครงการได้รับเงินทุนเป็นล้านเหรียญ

ข้อมูลการเติบโตที่น่าประทับใจไม่เพียงแต่ยืนยันถึงความกระตุ้นทางตลาดที่มีอย่างมากสำหรับ BTCFi แต่ยังกระตุ้นความต้องการที่ลึกซึ้งของชุมชนในการสำรวจเครือข่าย Pell มีการเปิดตัวของ BNB Chain Campaigns งานเทศกาล Bitlayer Mining และการทดสอบเครือข่ายที่กำลังจะมา สามารถจำได้ล่วงหน้าได้ว่า Pell Network จะดึงดูดการมีส่วนร่วมที่กระตุ้นมากขึ้นจากสมาชิกในชุมชน

ด้วยการดูข้อมูลของตัวขับเคลื่อนการเติบโตนี้ บทความนี้จะสำรวจศักยภาพของโครงการและพัฒนาของระบบ Bitcoin ในอนาคตจากมุมมองของโอกาสการเติบโตที่สำคัญของ BTCFi ความสำคัญและความจำเป็นของการแบ่งปัน AVS ที่มีพื้นฐานด้านความมั่นคงแข็งแกร่งของ Bitcoin และตรรกะการดำเนินงานของ Pell Network

BTC-enhanced EigenLayer: Pell Network สร้างเครือข่าย AVS โดยใช้ Bitcoin Re-staking ของ Gate

โดยง่ายๆ หากคุณเข้าใจ EigenLayer คุณสามารถเข้าใจหลักการพื้นฐานของ Pell Network ได้อย่างง่ายดาย

เรารู้ว่าการเปลี่ยนจาก PoW เป็น PoS ของ Ethereum เป็นจุดเริ่มต้นของยุค Ethereum staking และ EigenLayer เป็นโปรโตคอลการเส้นทางใหม่ขึ้นบน Ethereum ซึ่งอนุญาตให้ ETH ที่ถูก stake อยู่บนเครือข่าย Ethereum ถูก stake ใหม่เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของเครือข่าย บริการการตรวจสอบที่ใช้งาน (AVS) สามารถใช้สินทรัพย์ที่ถูก stake เหล่านี้เพื่อแบ่งปันพื้นฐานความปลอดภัยของ Ethereum

AVS มีจุดมุ่งหมายเพื่อให้การรับประกันความน่าเชื่อถือของ Web3 สําหรับการคํานวณใด ๆ บ่อยครั้งที่เราสามารถเปรียบเทียบ AVS กับ "มิดเดิลแวร์" เนื่องจาก AVS มีอยู่ในรูปแบบต่างๆเช่นเลเยอร์ความพร้อมใช้งานของข้อมูลซีเควนเซอร์ที่ใช้ร่วมกันและเครือข่ายออราเคิล EigenLayer ช่วยให้ AVS รองรับ dApps ได้ดีขึ้นรวมถึง DeFi และการเล่นเกมซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของระบบนิเวศ ผู้เข้าร่วมในการปักหลักสามารถรับรางวัลเพิ่มเติมได้ กระบวนการนี้ไม่เพียง แต่ลดต้นทุนการเริ่มต้นของโปรโตคอลบล็อกเชนใหม่และช่วยเพิ่มความต้านทานของเครือข่ายโดยรวมต่อการโจมตี แต่ยังช่วยปรับปรุงประสิทธิภาพของเงินทุน

ในเครือข่าย Pell: ผู้ใช้จะปลดสัญญาณสินทรัพย์ BTC และสินทรัพย์เหล่านี้จะให้ความปลอดภัยที่ดีที่สุดสำหรับ AVS บริการที่ต้องการ AVS จะได้รับบริการคุณภาพสูงมากขึ้น ซึ่งจะสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมและประสบการณ์ที่ดีขึ้น AVS ผู้เข้าร่วม ผู้ดำเนินการโหนด โปรโตคอล Pell และผู้ใช้ที่ให้ BTC ที่ถูกปลดจะได้รับสิทธิประโยชน์

ไม่เหมือน EigenLayer ที่เน้นที่บริบทของ Ethereum ที่มี Pell Network มีเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่าย AVS omnichain โดยส่งสัญญาณความปลอดภัยที่แข็งแรงที่สุดของ Bitcoin ไปยังระบบนิติบุคคลทั้งหมด

หลักการหลักของวิสัยทัศน์ omnichain คือการทําลายอุปสรรคระหว่างโซ่ Pell Network ใช้เทคโนโลยีเช่นการสื่อสารอะตอมข้ามสายโซ่และ ZK-Rollup เพื่อสร้างเครือข่ายรีเลย์แบบ omnichain มันรวม BTC และสินทรัพย์สภาพคล่อง LSD ที่กระจัดกระจายไปทั่ว Layer2 ต่างๆไว้ในบัญชีแยกประเภท Pell Network แบบครบวงจร สิ่งนี้ช่วยแก้ปัญหาการกระจายตัวของสภาพคล่อง BTC และการแยกระบบนิเวศจึงบรรลุเครือข่ายบริการ AVS การกํากับดูแลแบบกระจายอํานาจ เครือข่ายนี้ช่วยให้ Bitcoin สามารถมีส่วนร่วมในการตรวจสอบความปลอดภัยของแอปพลิเคชันระบบนิเวศแบบกระจายอํานาจที่หลากหลายซึ่งขยายสถานการณ์รายได้

กล่าวอีกนัยหนึ่งว่า เมื่อเส้นทางการเลือกบิตคอยน์เพิ่มขึ้น BTC เข้าสู่โหมดซ้อนกัน แต่ไม่ว่าจะเล่นอย่างไรผู้ใช้ก็ยังถือ "ใบรับรอง" ที่เชื่อมโยงกับต้นทุนอยู่เสมอ นอกจาก BTC ธรรมชาติ Pell Network ยังมีเป้าหมายที่จะให้ "จุดหมายปลายทาง" สำหรับใบรับรองทั้งหมด รับรองทั้งหมดนี้เพื่อรวม likuiditi แตกต่างกันมากที่สุดและฉีดฐานที่มั่นคงเข้าไปในชั้นความปลอดภัยทั่วไปที่รองรับโดย BTC

เครือข่าย Pell รองรับตัวเลือกการจับครองสินทรัพย์หลายรายการ

• Native Re-Staking: ผู้ตรวจสอบสามารถเสนอให้คืนเงิน BTC ของพวกเขาได้โดยใช้ข้อมูลรับเงินคืนของพวกเขาไปยังสัญญาของเครือข่าย Pell
• LSD Re-Staking: ฝาก LSD เข้าสมาร์ทคอนแทรค Pell Network
• BTC LP Re-Staking: ผู้ตรวจสอบเดิมพันคู่โทเค็นที่ประกอบด้วย BTC
• การ Re-Staking ของ LSD LP: ผู้ตรวจสอบเครือข่ายเดิมพันคู่ของโทเค็น LP ซึ่งรวมถึงโทเค็น BTC ที่สามารถเป็นเงินได้

ขณะนี้ Pell Network รองรับเครือข่ายเช่น BNB Smart Chain, Bitlayer, MerlinChain, B² Network, BOB, Core DAO, และ BEVM และได้เปิดตัวความร่วมมือกับโปรโตคอลที่รวมถึง Lorenzo Protocol, Solv Finance, FBTC, และ MapProtocol ซึ่งเป็นภาพรวมเบื้องต้นของระเบียงโอมนิเชน

เมื่อ Likwiditi รวมกันเป็นซินเนอร์จี พีเอลล์เน็ตเวิร์คมีเป้าหมายที่จะนำสินทรัพย์ที่ติดตั้งเหล่านี้ไปช่วยให้สามารถสร้างเครือข่าย AVS อย่างครอบคลุม

โดยเฉพาะในระบบนิเวศเครือข่าย Pell ประกอบด้วยบทบาทหลัก 3 อย่างคือ stakers, operators และ developers:

Stakers สามารถเลือกที่จะเดิมพันสินทรัพย์ของพวกเขาโดยตรงไปยัง Pell Network และเรียกใช้โหนดหรือพวกเขาสามารถ deleGate สินทรัพย์ของพวกเขาไปยังตัวแทนอื่น ๆ ตัวแทน deleGated มีหน้าที่รับผิดชอบในการดําเนินการโหนดการตรวจสอบที่เกี่ยวข้องและเรียกเก็บค่าธรรมเนียม ทั้งผู้เดิมพันและตัวแทนจะได้รับรางวัล แต่ตัวแทนที่ไม่ปฏิบัติตามและผู้เดิมพันของพวกเขาจะถูกลงโทษ ผู้ให้บริการมีหน้าที่จัดการและใช้งานเครือข่าย AVS โดยใช้ BTC LSD เพื่อเพิ่มความปลอดภัยของเครือข่าย นักพัฒนามุ่งเน้นไปที่การออกแบบและปรับกลไกการลงโทษและการให้รางวัลสําหรับระบบกระจายอํานาจเพื่อให้แน่ใจว่าเครือข่ายทํางานได้อย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบ

เพื่อสูงสุดใช้สินทรัพย์ที่ถือครองเพื่อสนับสนุน AVS และเบรรเทาความกังวลเกี่ยวกับว่ารายได้ที่คาดหวังของ AVS สามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานของผู้ให้บริการและว่าผู้ให้บริการมีทรัพยากรคอมพิวเตอร์เพียงพอที่จะเข้าร่วมการตรวจสอบ AVS บริษัท Pell Network ออกแบบโครงสร้าง AVS ที่ฉลาดอย่างเหนียว

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง AVS ของ Pell Network ถูกแบ่งออกเป็นสองประเภท:

AVS ขนาดใหญ่: ปริมาณงานการคํานวณทั้งหมดของ AVS ขนาดใหญ่มีการกระจายอย่างเท่าเทียมกันในโหนดผู้ปฏิบัติงานที่เข้าร่วมทั้งหมด ตัวอย่างเช่นในโปรโตคอลความพร้อมใช้งานของข้อมูลขนาดใหญ่ข้อมูลจะถูกแบ่งออกเป็นบล็อก N แต่ละขนาดบล็อกคือ 2 / N ของข้อมูลต้นฉบับทําให้ต้นทุนรวมในการจัดเก็บข้อมูลเทียบเท่ากับค่าใช้จ่ายหากจัดเก็บโดยเพียงสองโหนด ด้วยวิธีนี้ไม่เพียง แต่ความต้องการในการประมวลผลข้อมูลในแต่ละโหนดอาจต่ํา แต่ทั้งระบบสามารถบรรลุปริมาณงานสูงโดยการรวมประสิทธิภาพของหลายโหนดจึงบรรลุการกระจายอํานาจในระดับที่สูงขึ้น

Lightweight AVS: การตั้งเป้าหมายของ Lightweight AVS คือการแก้ไขงานที่ต้องการการดำเนินการซ้ำซาก แต่มีค่าใช้จ่ายต่ำมาก เช่นการยืนยันข้อมูลบางส่วนโดยใช้ไคลเอ็นต์ที่มีน้ำหนักเบาหรือการยืนยันพิสูจน์ศูนย์รู้จัก งานเหล่านี้มีความต้องการการคำนวณที่ต่ำและความต้องการสถาปัตยกรรมที่ต่ำ ทำให้เหมาะสมที่จะรันบนเครือข่าย Pell

จากการออกแบบเลเยอร์นี้ AVS สามารถสร้าง AVS ที่แตกต่างกันตามความสามารถและความต้องการของตนเองทําให้มั่นใจได้ว่าแม้แต่ผู้ตรวจสอบที่ดําเนินการเป็นรายบุคคลก็สามารถได้รับประโยชน์ทางเศรษฐกิจอย่างมากจาก Pell Network และการมีส่วนร่วมขนาดใหญ่สามารถขจัดความกังวลเกี่ยวกับการรวมศูนย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ Pell Network ประสบความสําเร็จในการดึงดูดผู้ให้บริการโหนดที่มีชื่อเสียงกว่าเจ็ดรายให้ลงนามในความตั้งใจของความร่วมมือ ด้วยกิจกรรม testnet ที่จะเกิดขึ้น Pell Network จะดึงดูดผู้ให้บริการโหนดและ AVS ให้ลงทะเบียนและเข้าร่วมมากขึ้น

ดังนั้นแนวคิดและโซลูชันของ Pell Network สําหรับการสร้างชั้นฉันทามติทางนิเวศวิทยาข้ามสายโซ่โดยการปล่อยความปลอดภัยที่แข็งแกร่งของ Bitcoin จึงชัดเจน ตั้งแต่การออกแบบสถาปัตยกรรมผลิตภัณฑ์ไปจนถึงผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียหลายฝ่ายการออกแบบที่ชาญฉลาดของ Pell ทําให้โครงการมีตําแหน่งที่ไม่เหมือนใครทั้งในด้านการปักหลักใหม่และการแบ่งปันความปลอดภัยและข้อดีเหล่านี้หยั่งรากลึกในความเข้าใจของ Pell Network เกี่ยวกับภูมิทัศน์ของระบบนิเวศ

แบ่งปันฐานทัพความปลอดภัยที่แข็งแกร่งของ Bitcoin: ความเป็นเอกลักษณ์และความจำเป็นของ Pell

เราทุกคนทราบดีว่าความปลอดภัยเป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับการสร้างและเจริญเติบโตของระบบนิเวศ อย่างไรก็ตาม การสร้างรากฐานด้านความปลอดภัยที่แข็งแรงไม่ใช่งานที่ง่ายสำหรับโครงการและผู้ปฏิบัติงานส่วนใหญ่

บางโครงการเลือกที่จะสร้างเครือข่ายความไว้วางใจใหม่ทั้งหมด แต่วิธีการสร้างกลไกฉันทามตินี้ไม่เพียง แต่แยกส่วนฉันทามติเพิ่มเติม แต่ยังทําให้กระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายอํานาจอย่างต่อเนื่องทั้งต้นทุนสูงและระยะยาว โครงการอื่น ๆ เลือกที่จะสร้างบล็อกเชนที่โตเต็มที่เช่น L1 หรือ L2 เพื่อแบ่งปันความปลอดภัย แต่แนวทางนี้ยังมีปัญหาหลายประการเช่นต้นทุนการพัฒนาที่สูงและความจําเป็นในการเสียสละความยืดหยุ่นและความเป็นอิสระในการปฏิบัติตามกฎการกํากับดูแลของห่วงโซ่เหล่านี้

ในฐานะที่เป็นเสาหลักของอุตสาหกรรม crypto Bitcoin มีความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่สุด: ไม่เพียง แต่มีกลไกฉันทามติที่เป็นผู้ใหญ่และมีเสถียรภาพ แต่ยังมีการยอมรับและการยอมรับที่กว้างที่สุดทั่วโลกโดยมีมูลค่าตลาดมากกว่า 1.3 ล้านล้านดอลลาร์ การยอมรับในวงกว้างที่เกิดจากการกระจายอํานาจจะเพิ่มค่าใช้จ่ายสําหรับผู้โจมตีในการควบคุมเครือข่าย หากโครงการเพิ่มเติมสามารถแบ่งปันรากฐานด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งของ Bitcoin นักพัฒนาสามารถมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมและการขยายคุณสมบัติได้มากขึ้นซึ่งจะช่วยส่งเสริมความเจริญรุ่งเรืองของระบบนิเวศแบบออนเชน

ดังนั้น เราจะปลดล็อกความคุ้มค่าอันมหาศาลของ 'ความปลอดภัยที่แข็งแกร่ง' นี้ได้อย่างไร? แนวคิดในการทำให้ AVS มีพลังมากขึ้นที่ถูกเสนอโดย Eigenlayer สำหรับ Ethereum ที่ถือเป็น 'ความปลอดภัยที่ดีที่สุด' ในวงการคริปโต ได้นำมาให้ผู้ประกอบการได้มีจุดอ้างอิง อย่างไรก็ตาม ประสบการณ์ที่ประสบความสำเร็จถูกนำมาเป็นจุดอ้างอิง แต่ไม่ใช่การคัดลอก และสิ่งนี้เป็นเช่นเดียวกันกับการสร้าง BTC เวอร์ชันของ Eigenlayer:

ในทางตรงกันข้าม Eigenlayer ที่ใช้วิธีการดำเนินการที่พึงพอใจของ Ethereum ซึ่งมีแนวโน้มที่จะให้บริการใน Ethereum นอกจากนี้ Eigenlayer ยังต้องเผชิญหน้ากับความท้าทายหลายอย่างเช่น cross-chain staking, slashing และ governance สำหรับระบบที่ไม่ใช่ Ethereum

อย่างไรก็ตาม หากเป้าหมายคือการแบ่งปันความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่สุดของบิตคอยน์ การใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ถูกพนันเป็นไปได้ว่าเป็นทางเลือกที่เป็นธรรมชาติที่สุด วิธีการนี้ช่วยเสริมความรับรู้ของกลไกนี้ในหมู่ส่วนรักบิตคอยน์ และความผันผวนของบิตคอยน์มีน้อยลงอย่างมีนัยสำคัญกว่าสินทรัพย์ PoS ส่วนใหญ่ ซึ่งเป็นการหลีกเลี่ยงความเสี่ยงในการให้โอกาสให้ผู้โจมตีเนื่องจากการลดมูลค่าของสินทรัพย์ลงอย่างรวดเร็วบนเครือข่าย PoS บางแห่ง นี่ทำให้วิธีการแบ่งปันความปลอดภัยโดยใช้บิตคอยน์เป็นสินทรัพย์ที่ถูกพนันมีเสน่ห์มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม ปัญหาสำคัญคือกลไกการตกลงเสริม PoW ของ Bitcoin ไม่มีความสามารถในการผลิตผลตอบแทนจากการเก็บเงินเดียว การแก้ปัญหาผลตอบแทนก่อนหน้านี้ที่สร้างขึ้นรอบ BTC มักนำเสนอ wrapping, CeDeFi, cross-chain bridges เป็นต้น ซึ่งมีการสมมติในระดับหนึ่ง ตัวอย่างเช่น WBTC ต้องการความเชื่อในสังกัดเดียว และ BTC บน sidechains มักต้องการความเชื่อในคณะกรรมการตัวเลขหลายราย ซึ่งไม่แบ่งปันฐานรักษาความปลอดภัยของ Bitcoin อย่างแท้จริง

จุดพลิกโฉมมาพร้อมกับการเกิดขึ้นของ Babylon: Babylon ใช้ BTC ที่ถือครองเพื่อช่วยปกป้องเครือข่าย PoS และยืนยันธุรกรรม on-chain ในขณะเดียวกัน ในขณะที่เครือข่าย PoS จะให้ผลตอบแทนด้านความปลอดภัยสำหรับ Babylon และผู้ถือ BTC นวัตกรรมนี้ทำให้ได้ผลตอบแทนด้านความปลอดภัยแบบ PoS ที่เป็นธรรมชาติสำหรับ BTC โดยทำให้มีรากฐานที่แข็งแรงมากขึ้นสำหรับการปฏิบัติตามการแบ่งปันความปลอดภัยโดยใช้ Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่ถือครอง อย่างไรก็ตาม ยังมีช่องว่างที่หลีกเลี่ยงไม่ได้สำหรับการสนับสนุนการก่อสร้างของ AVS ขนาดใหญ่:

Babylon ให้บริการโดยส่วนใหญ่ในโซน PoS, โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระบบนิเวศ Cosmos เนื่องจากบริการประทับเวลาของ Bitcoin ต้องการส่งข้อความระหว่างโซน Babylon และโซน Cosmos ผ่านโปรโตคอล IBC ซึ่งมีข้อจำกัดสำคัญ ดังนั้น Babylon ไม่สามารถใช้งานอย่างเต็มที่โดย AVS แบบเบาหนักของมาตรฐานขนาดใหญ่เพื่อประกันความปลอดภัย และด้วยเหตุนี้ไม่สามารถทำหน้าที่เป็นโซลูชัน AVS สำหรับการใช้งานทั่วไป

บาบิโลนทําให้ไม่มั่นคง BTC เดิมพันได้สําเร็จด้วยการก้าวกระโดดจาก 0 เป็น 1 แต่เราจะทําให้ทั้งอุตสาหกรรมแบ่งปันรากฐานความปลอดภัยอันทรงพลังของ Bitcoin เพื่อให้บรรลุการระเบิดของ BTCFi ตั้งแต่ 1 ถึง 10 หรือ 100 ได้อย่างไร? Pell Network มีเป้าหมายที่จะสร้างเครือข่ายความปลอดภัยสากลแห่งแรกโดยใช้ Bitcoin re-staking เพิ่มขีดความสามารถให้กับ AVS ของอุตสาหกรรมทั้งหมดเพื่อแบ่งปันรากฐานความปลอดภัยอันทรงพลังของ Bitcoin ด้วยรากฐานที่มั่นคงนี้ผู้ใช้ AVS ระบบนิเวศ Bitcoin และแม้แต่ระบบนิเวศอุตสาหกรรมทั้งหมดจะได้รับประโยชน์

AVS มีการเสริมรากฐานของนิเวศ ทำให้ BTCFi มีการเจริญเติบโตตลอดฤดูร้อน

มูลค่าของระบบนิเวศที่มีสุขภาพดีไม่ได้อยู่เพียงแค่ในประโยชน์ที่มันจะให้กับผู้เข้าร่วมทุกคน แต่ยังอยู่ในความสามารถในการสะสมเอนเนอร์ย้อนกลับสำหรับการพัฒนายาวนานของอุตสาหกรรม Pell Network ด้วยเครือข่ายความปลอดภัยสากลที่สร้างขึ้นบนการเลี้ยง Bitcoin คือตัวอย่างที่ดี

สำหรับผู้ใช้งาน ความโดดเด่นของการเข้าร่วมเครือข่าย Pell อยู่ที่การสะสมแต้มและการมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในการสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยของธุรกิจทั้งหมด ซึ่งอาจมีการรับรางวัลที่สำคัญมากขึ้น

ในทางตรงกันข้าม โดยการเข้าร่วม Pell Network staking ผู้ใช้สามารถรับคะแนนได้ คะแนนเหล่านี้ไม่เพียงแต่รับรองการเข้าร่วมของผู้ใช้ แต่ยังเป็นสิ่งที่เกี่ยวข้องกับการแจกจ่ายโทเค็นของ Pell Network โดยให้คุณค่าเพิ่มเติมแก่ผู้ใช้

อีกด้านหนึ่ง ผู้เข้าร่วมการจำนองสร้างพื้นฐานด้านความปลอดภัยที่แข็งแกร่งที่ทำให้ AVS สามารถให้บริการที่ดีขึ้น ทำให้การดำเนินการ dApp ที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รายได้ที่ได้จากการใช้งานของแอปพลิเคชันชั้นบนนี้จะถูกแบ่งปันกับผู้จำนองโดยใช้กลไกที่กำหนดไว้ ความสำเร็จของ dApp ที่เฉพาะเจาทำให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลที่ซ่อนอยู่มากมาย และเมื่อฐานผู้ใช้ของ dApp และการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้น รายได้ของผู้จำนองก็จะเพิ่มขึ้น

สำหรับ AVS Pell Network มอบพื้นฐานความปลอดภัยที่มีค่าเข้าถึงต่ำและมั่นคง ทำให้นักพัฒนาสามารถโฟกัสไปที่การนำเสนอตัวตนธุรกิจได้มากขึ้นโดยไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับสถาปัตยกรรมความปลอดภัยในพื้นหลัง

ที่สําคัญกว่านั้น Pell Network ประสบความสําเร็จในการทํางานร่วมกันข้ามสายโซ่จากการออกแบบและเทคโนโลยีพื้นฐานทําให้ AVS สามารถปรับใช้ในหลายเครือข่ายได้ด้วยความพยายามในการพัฒนาเพียงครั้งเดียว สิ่งนี้ทําให้ Pell Network มีพื้นที่อุดมสมบูรณ์สําหรับการกําเนิด AVS ใหม่ ๆ และให้โครงสร้างพื้นฐานที่ครอบคลุมมากขึ้นสําหรับระบบนิเวศ omnichain

ตัวอย่างเช่น Pell Network สามารถสร้างเครือข่ายออราเคิลที่มั่นคงทางเศรษฐกิจได้อย่างรวดเร็ว อนุภาคนักพัฒนาให้สามารถโฟกัสเพียงที่การประมวลผลและการส่งมอบข้อมูล โดยไม่ต้องสร้างเลเยอร์ AVS อิสระ ด้วยโครงสร้างระบบรักษาความปลอดภัยของ Pell Network เครือข่ายออราเคิลสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและเชื่อถือได้อย่างมั่นใจ ทำให้มีความแม่นยำและความทันเวลาของข้อมูล

ตัวอย่างอื่น ๆ คือการใช้กลไกการเพิ่มเติมของ Pell Network และพลังงานของชุมชนเพื่อสร้างชั้นการมีข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีประสิทธิภาพสูง มีค่าใช้จ่ายต่ำ ซึ่งให้การสนับสนุนข้อมูลที่แข็งแรงสำหรับ dApps ต่าง ๆ และตรวจสอบความสามารถในการเข้าถึงข้อมูลและความสมบูรณ์

นอกจากนี้ตามกลไกการส่งข้อความของ Pell Network การสร้างสะพานข้ามสายโซ่ไคลเอนต์แบบเบาจะกลายเป็นเรื่องง่ายมาก ผู้เดิมพันสามารถตรวจสอบลายเซ็นข้ามสายโซ่นอกเครือข่ายและหากเหตุการณ์ท้าทายพิสูจน์ความคลาดเคลื่อนผู้ตรวจสอบความถูกต้องใน Pell Network จะถูกลงโทษในโหมดช้า (โหมดไม่มองโลกในแง่ดี) กลไกนี้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและความน่าเชื่อถือของการทํางานข้ามสายโซ่

รูปแบบอื่น ๆ ของ AVS รวมถึงสายงานแอปพลิเคชันที่มีความล่าช้ามาก, โปรโตคอล DeFi ที่เน้นความเป็นส่วนตัว, เกมบล็อกเชน, แอปพลิเคชัน AI ของ Web3, และ RWA tracks ผ่านสายงานแอปพลิเคชันเหล่านี้, Pell Network มีเป้าหมายที่จะให้บริการที่หลากหลายและมีประสิทธิภาพมากขึ้นสำหรับระบบนิเวศบล็อกเชน, ส่งเสริมการพัฒนาและนวัตกรรมของอุตสาหกรรม

การเกิดขึ้นของบริการการตรวจสอบที่แข็งแกร่งต่าง ๆ (AVS) ที่มีพื้นฐานบนเครือข่าย Pell สามารถเสริมสร้างโครงสร้างพื้นฐานทางนิเวศที่ขาดหายไปนานในระบบ Bitcoin ได้อีกด้วย ที่จะส่งเสริมการพัฒนาของ BTCFi ได้ดียิ่งขึ้น

สำหรับนิวเทริเน็ตบิตคอยน์ ความสามารถในการทำงานร่วมกันข้ามโซนของ Pell Network เป็นการพัฒนาที่สำคัญ ผ่านการเชื่อมต่อโดยไม่มีจุดตัดกับเครือข่ายบล็อกเชนอื่น ๆ บิตคอยน์สามารถไหลผ่านโซนต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่จำกัดเฉพาะในการใช้งานบนโซนเดียว แต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบนิวเทริเน็ตบล็อกเชนใหญ่ขึ้น สามารถทำการจัดสรรและใช้งานสินทรัพย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ประการที่สองเครือข่าย AVS ที่สร้างโดย Pell Network แบ่งปันรากฐานความปลอดภัยของ Bitcoin อย่างแท้จริง การรับประกันความปลอดภัยนี้ไม่เพียง แต่เพิ่มความไว้วางใจของผู้ใช้ในระบบนิเวศของ Bitcoin แต่ยังสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้ออํานวยต่อโซลูชันเลเยอร์ 2 และการพัฒนา dApp นักพัฒนาสามารถมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีขึ้นจะดึงดูดผู้ใช้ใหม่มากขึ้น วัฏจักรคุณธรรมนี้ผลักดันการเติบโตของระบบนิเวศ Bitcoin ต่อไป

นอกเหนือจากระบบนิเวศของ Bitcoin แล้วคุณลักษณะ omnichain ของ AVS ยังเป็นประโยชน์ต่อนักพัฒนาแอปพลิเคชันในระบบนิเวศอื่น ๆ ชั้นความปลอดภัยที่ใช้ Bitcoin นั้นแข็งแกร่งกว่ารากฐานความปลอดภัยอื่น ๆ ด้วยการบรรลุการแบ่งปันรากฐานความปลอดภัยของ Bitcoin แบบ omnichain Pell Network จะสร้างสภาพแวดล้อมที่เชื่อถือได้และมีประสิทธิภาพมากขึ้นสําหรับนักพัฒนาอุตสาหกรรม นักพัฒนายังสามารถมุ่งเน้นไปที่นวัตกรรมผลิตภัณฑ์และประสบการณ์ของผู้ใช้มากขึ้นเปิดตัวผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงในเวลาอันสั้นซึ่งจะช่วยเร่งการตอบสนองของตลาด

ด้วยการใช้บริการ AVS ที่แพร่หลาย ระบบนิเวศบนเชืองโฮมจะสัมผัสความเจริญรุ่งเรืองที่ไม่เคยเคยมีมาก่อน นักพัฒนาสามารถใช้พื้นฐานความปลอดภัยที่แข็งแกร่งเพื่อสร้างแอปพลิเคชันใหม่ที่หลากหลาย แอปพลิเคชันนวัตกรรมเหล่านี้ไม่เพียงเติมเต็มความหลากหลายของนิเวศบล็อกเชนเท่านั้น แต่ยังดึงดูดผู้ใช้และส่วนทุนมากขึ้นในฆาแนวนี้ ส่งผลให้เกิดการพัฒนาและการแก่กระทบในนิเวศทั้งหมดอย่างรวดเร็ว

$300 พันล้านโอกาสในการเติบโต: วิธีการเข้าร่วมในเครือข่าย Pell คืออะไร?

เป็นเวอร์ชันที่ปรับปรุงของ BTC EigenLayer Pell Network มีศักยภาพในการพัฒนาและโอกาสทางธุรกิจอย่างมาก โดยมีขนาดทางการเงิน Ethereum ราคาตลาดประมาณ 400 พันล้านเหรียญสหรัฐ ในขณะที่ Bitcoin มียอดทางการเงินประมาณ 1.5 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ ความเป็นเอกภาพที่ยาวนานของ Bitcoin ในตลาดยังบ่งบอกถึงศักยภาพในการขยายตัวของระบบน่าสนใจมากกว่า

การวิเคราะห์เพิ่มเติมแสดงให้เห็นว่าตลาด ETHFi อยู่ที่ประมาณ 80 พันล้านดอลลาร์ หากเราคาดการณ์สัดส่วนนี้ตลาด BTCFi อาจสูงถึง 300 พันล้านดอลลาร์ ขนาดตลาดที่คาดหวังมหาศาลนี้ไม่เพียง แต่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันกว้างใหญ่ของ BTCFi แต่ยังชี้ให้เห็นว่า Pell Network ซึ่งเป็นกําลังสําคัญในการขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองของ BTCFi มีโอกาสมากมายและพื้นที่ตลาดที่กว้างขวาง

เป็นที่น่าสังเกตว่า EigenLayer มุ่งเน้นไปที่ระบบนิเวศของ Ethereum เป็นหลัก ในทางตรงกันข้าม Pell Network มีข้อได้เปรียบของความสามารถทั่วไปและข้ามสายโซ่ซึ่งหมายความว่า Pell Network สามารถรองรับสถานการณ์การใช้งานที่หลากหลายขึ้นจากมุมมองข้ามสายโซ่ ช่วงบริการที่กว้างขึ้นนี้ทําให้ Pell Network มีศักยภาพที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในการพัฒนาในอนาคต ดังนั้นสมาชิกในชุมชนหลายคนเชื่อว่าการถือครองโทเค็น Pell Network มีผลตอบแทนที่มีแนวโน้ม

ดังนั้น วิธีที่หนึ่งสำหรับการเข้าร่วม Pell Network อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นในการสะสมโทเค็นคืออะไร?

เริ่มแรกและก่อนอื่นที่สุด สิ่งที่ไม่ควรพลาดคือระบบคะแนน

ในขณะที่ยังไม่มีการเปิดตัวโทเค็นอย่างเป็นทางการ รางวัลของระบบ Pell Network นำเสนอในรูปแบบของแต้ม แผนการแต้ม Pell points เป้าหมาย TVL (Total Value Locked) คือ 10 พันล้านดอลลาร์ ในช่วงเวลานี้ผู้ใช้สามารถรับแต้มพื้นฐานโดยดำเนินการตามงานต่างๆ เช่น ติดตาม Pell ทาง Twitter หรือเข้าร่วม Discord และ Telegram ฝากเงินครั้งแรกมากกว่า 0.001 BTC และ stake เกิน 0.01 BTC เป็นเวลา 14 วันติดต่อกัน นอกจากนี้ การเข้าร่วมงาน Bitlayer mining festival การ stake ในโครงการพาร์ทเนอร์ในระบบ และการเชิญเพื่อนจะทำให้ผู้ใช้ได้รับแต้มเพิ่มเติม

ในเหตุการณ์เทศกาลขุดเหมือง Bitlayer ก่อนหน้านี้ Pell Network ในฐานะโครงการพันธมิตรได้เสนอรางวัลมูลค่า 3.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐสำหรับผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมในการแลกเปลี่ยนและการค้าของเหรียญสตางค์ รางวัลเหล่านี้ประกอบด้วย 30,000 จุด Pell และการ์ดจุดครึ่งความยาว 1.5 เท่า ซึ่งดึงดูดความกระตือรือร้นในชุมชนอย่างแพร่หลาย

เป็นเชิงกลยุทธ์การตลาดปกติ จะไม่เพียงอย่างเดียวที่จะเชื่อมโยงกับการแจกจ่ายในอนาคต แต่ยังแทนด้วยชุดของประโยชน์ของระบบนิเวศ ในกรณีที่ไม่มีการเปิดตัวเหรียญโทเค็น การสะสมคะแนนมากขึ้นเป็นการถือเหรียญมากขึ้น

นอกจากนี้ กิจกรรมจูงใจที่สําคัญสองประการของ Pell Network กําลังดําเนินไปอย่างเต็มรูปแบบ โดยเปิดโอกาสให้ผู้ใช้ได้รับรางวัลมากมาย

หนึ่งในกิจกรรมคือการร่วมมือระหว่าง Pell Network, BNB Chain, และมากกว่า 15 โครงการที่มีคุณภาพสูงภายในนิเวศ ที่มีชื่อว่า “TRAIN LIKE A CHAMPION”:

งานนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเฉลิมฉลองการเปิดโอลิมปิกฤดูร้อน 2024 ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคม 2024 ถึง 14 สิงหาคม 2024 ผู้เข้าร่วมสามารถรับคะแนนได้โดยเชื่อมต่อกระเป๋าเงินสร้าง AI NFT และทํางานโครงการให้สําเร็จ ผู้ได้รับคะแนน 5000 อันดับแรกจะมีโอกาสแบ่งปันเงินรางวัลรวม $250,000 และผู้ใช้ที่มีคะแนนมากกว่า 500 คะแนนสามารถเข้าร่วมการจับรางวัลสําหรับเงินรางวัลมูลค่า $100,000 งานนี้ดึงดูดผู้เข้าร่วมงานมากกว่า 10,000 คนแล้ว

ผู้เข้าร่วมต้องเข้าร่วมช่องรหัส #bnb Pell Network Discord และป้อนคําสั่ง "!bnb" เพื่อรับรหัสเหตุการณ์ จากนั้นพวกเขาป้อนรหัสนี้ในหน้า Pell เพื่อให้การผูกเสร็จสมบูรณ์

หลังจากผูกโค้ดอ้างอิงแล้ว ผู้เข้าร่วมสามารถรับคะแนนกิจกรรมและสร้าง Pell Champion NFT โดยการทำการเพิ่มเงินฝากอีกครั้งอย่างน้อย 0.0001 BTCB (BounceBit), 0.0001 solvBTC (SolvBTC), และ 0.0001 stBTC (Lorenzo) บน Pell

คลิกที่นี่เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการแคมเปญ BNB Chain

งานใหญ่ที่สองคืองานรื่นเริงรายได้ที่จัดร่วมกันโดย Pell Network, Bitlayer และ Bedrock งานเริ่มตั้งแต่วันที่ 25 กรกฎาคมถึง 25 สิงหาคม ในระหว่างกิจกรรมผู้ใช้มีสองวิธีในการเข้าร่วม

วิธีแรก: เลือกเข้าสู่หน้า Minting ของ Bedrock, เลือกเชือง Bitlayer และใช้ WBTC/BTC เพื่อเมือง uniBTC แล้ว stake uniBTC เข้ากับ Pell;

วิธีที่สอง: เข้าสู่หน้า Pell’s Stake โดยเลือกโซ่ Bitlayer และเทียบ WBTC/BTC เพื่อสู่ระบบเครือข่าย Pell ซึ่ง Pell จะร่วมมือกับ Bedrock เพื่อเทียบจำนวน uniBTC เทียบเท่าให้คุณและฝากไว้ในที่เก็บเงินเพื่อทำการ restaking ของ Pell หลัง Babylon เปิดให้ใช้งาน Bedrock จะเทียบ BTC เพื่อ Babylon และได้รับรางวัลการ staking ของ Babylon ให้คุณ

ผู้ใช้ที่เข้าร่วมกิจกรรมนี้จะได้รับรางวัลมากมาย เช่น คะแนน Bitlayer เพชร Bedrock คะแนน Pell และรายได้จากการ stake ใน Babylon ในอนาคต นอกจากนี้ กิจกรรม Giveaway จะถูกดำเนินการบนโซเชียลมีเดียในระหว่างกิจกรรม ผู้ใช้ที่สนใจสามารถติดตามทวิตเตอร์อย่างเป็นทางการของ Pell เพื่อรับข้อมูลทันเวลา ข้อมูลเพิ่มเติม

คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานเทศกาลรายได้

การเปิดให้บริการพร้อมกันของกิจกรรมหลายรายการ เป้าหมายเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลตอบแทนที่หลากหลายผ่านระบบนิเวศที่มีชีวิตชีวาและกระตุ้นผู้ใช้ให้สำรวจต่อไปในการเล่นเกมในระบบ นอกจากนี้จะเห็นได้ว่า ตามแผนที่เผยแพร่โดย Pell Network จะเปิดให้บริการทดสอบเครือข่าย Pell ในต้นเดือนสิงหาคม ณ เวลานั้น Pell Network จะเปิดลงทะเบียนสำหรับ AVS และนำเสนอชุดมาตรการส่งเสริมให้มีการเข้าร่วมในขอบเขตขนาดใหญ่ นอกจากนี้ Pell Network ยังจะใช้โอกาสนี้ในการทดสอบแอปพลิเคชันและบริการของมัน เพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพโครงการอย่างต่อเนื่อง

นอกเหนือจาก testnet แล้วเหตุการณ์สําคัญเพิ่มเติมสําหรับ Pell Network กําลังก้าวหน้าอย่างเป็นระบบ

ในเดือนสิงหาคม Pell Network จะเปิดตัวแผนส่งเสริมผู้สร้างนิเวศน์เพื่อสร้างกำลังกายให้มีผู้พัฒนามากขึ้นและเข้าร่วมในการก่อสร้างนิเวศน์ นอกจากนี้มันยังจะสร้างคณะกรรมการเทคนิค AVS และคณะกรรมการจัดการผู้ดูแลโหนดเพื่อนำ AVS network ไปสู่ขั้นตอนถัดไป

ในเดือนกันยายน Pell Network จะเน้นการเปิดตัว mainnet และเปิดตัวโมเดลเศรษฐศาสตร์โทเค็นของมัน ในเวลานั้น มันยังจะขยายการครอบคลุมของ AVS ไปสู่สาขาอื่น ๆ เช่น AI, DePIN และ RWA

ในไตรมาสสุดท้ายของปี 2024 Pell Network จะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการกระจายอำนาจและความยืดหยุ่นของ Pell และการรวมกับบริการการประทับเวลาและฟังก์ชันการใช้สิทธิ์ BTC แบบธรรมชาติของ Babylon

สรุป

เป็นเวลานานที่ผู้ใช้ BTCFi ถือมีจำนวนมากของ Bitcoin แต่เนื่องจากขาดวิธีการใช้ประโยชน์ที่มีประสิทธิภาพเช่นใน Ethereum ส่วนใหญ่ทรัพย์สิน Bitcoin ยังคงอยู่ในกระเป๋าเก็บเงินร้อน สิ่งนี้ทำให้มีความเห็นทั่วไปว่า กลุ่ม BTCFi ยังไม่ได้พัฒนาอย่างเต็มที่

จากนี้ถ้าเราสามารถใช้โครงสร้างพื้นฐานของ Bitcoin ให้ดีขึ้นเพื่อให้ผู้ใช้ได้รับผลตอบแทนและให้ความมั่นคงของสินทรัพย์ในระดับต่ำลง BTCFi ก็จะเติบโตอย่างรวดเร็ว อาจเกินระดับสูงสุดในประวัติศาสตร์ของระบบ Ethereum

Standing on this trillion-dollar market, Pell Network’s solution is not limited to building a specific product but rather establishing a decentralized trust free market. On one hand, it offers diversified staking options and re-staking mechanisms, enhancing the economic and security utility of the Bitcoin network. On the other hand, it supports the construction of lightweight and large-scale decentralized components, providing cost-effective solutions for the security of Bitcoin ecosystem infrastructure and applications. This not only drives exponential growth in the Bitcoin ecosystem but also allows the entire industry to share Bitcoin’s security foundation through the Pell Network AVS network, further unlocking on-chain innovation possibilities.

แม้ว่าเครือข่ายหลักของเน็ตเวิร์ก Pell ยังไม่เปิดตัว และประสิทธิภาพในอนาคตยังคงต้องรอดู แต่ประสิทธิภาพก่อนเปิดตัว ที่ได้รับการยอมรับในตลาดอย่างยิ่ง - ทำให้มียอดเงินที่ลงทุนได้มูลค่าสูงถึง 1.9 พันล้านเหรียญสหรัฐ และมีที่อยู่แบบไม่ซ้ำกันถึง 360,000 แห่ง เพียงแค่สามสัปดาห์เท่านั้น - ได้แสดงให้เห็นถึงตำแหน่งที่เป็นผู้นำของตลาดอย่างชัดเจนแล้ว ด้วยกิจกรรมทดสอบที่กำลังจะเกิดขึ้น การขยายตัวไปทางแม่เหล็กหลายทาง และการแข่งขันบน BNB Chain ที่กำลังจะมาถึง เรารอคอยในการพัฒนาที่น่าตื่นเต้นมากขึ้นจากเครือข่าย Pell ในอนาคต

คำแถลง

1. บทความนี้ทําซ้ําจาก [TechFlow], และลิขสิทธิ์เป็นของผู้เขียนต้นฉบับ [เทคโฟลว์]. หากมีการคัดค้านการพิมพ์ซ้ําโปรดติดต่อ Gate Learn ทีมงานและทีมงานจะจัดการโดยเร็วที่สุดตามขั้นตอนที่เกี่ยวข้อง

2. คำประกาศ: มุมมองและความเห็นที่แสดงในบทความนี้เป็นเพียงเพียงมุมมองส่วนบุคคลของผู้เขียนเท่านั้นและไม่เป็นการให้คำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุนใด ๆ

3. บทความฉบับภาษาอื่นได้รับการแปลโดยทีม Gate Learn และไม่ได้กล่าวถึงใน Gate.io, บทความที่แปลอาจไม่สามารถทำสำเนา แจกจ่าย หรือลอกเลียนได้